วันนี้มาศึกษาเกี่ยวกับศัตรูพืชกันครับ โดยรวมแล้วมีมากมายหลายชนิดครับ คงจะเขียนกันไม่ไหวเลยทีเดียว จึงขอยกตัวสำคัญๆที่สวนผมพบเจอบ่อยๆ มาฝากผู้อ่านแล้วกันนะครับ
ศัตรูพืชวงศ์เพลี้ยครับ
1.เพลี้ยไฟ ชื่อวิทยาศาสตร์ Stenchaetohrips biformis (Bagnall)
วงศ์ Thripidae
อันดับ Thysanoptera
ชื่อสามัญอื่น -
ลักษณะการทำลายและการระบาด
เพลี้ยไฟทั้งตัวอ่อน และตัวเต็มวัยจะทำลายข้าวโดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบข้าว ที่ยังอ่อน โดยอาศัยอยู่ตามซอกใบ ระบาดในระยะกล้า เมื่อใบ
เพลี้ยไฟทั้งตัวอ่อน และตัวเต็มวัยจะทำลายข้าวโดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบข้าว ที่ยังอ่อน โดยอาศัยอยู่ตามซอกใบ ระบาดในระยะกล้า เมื่อใบ
ช่อดอก การทำลายในระยะติดดอก จะทำให้ช่อดอกหงิกงอ ดอกร่วง ไม่ติดผลหรือทำให้ติดผลน้อย
ผล ที่ขั้วผลอ่อนจะเห็นเป็นวงสีเทาเกือบดำ หรือผลบิดเบี้ยว ถ้าการทำลายรุนแรงผลมะม่วงจะเป็นสีดำเกือบทั้งหมด แมลงชนิดนี้ระบาดเมื่ออากาศร้อนและแห้งแล้ง ถ้ามีการระบาดรุนแรง เพลี้ยไฟจะทำลายมะม่วงระยะผลอ่อน ช่อดอก และผลอ่อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน อยู่ในช่วงมะม่วงเริ่มแทงดอกในระยะเดือยไก่ และปริมาณประชากรจะลดลงในระยะดอกตูม และเพิ่มขึ้นเมื่อดอกใกล้บาน จนถึงดอกบานเต็มที่ จากนั้นจะเริ่มลดลง เมื่อเริ่มติดผลและจะพบน้อยมากเมื่อผลผลิตใกล้เก็บ
อย่างที่บอกครับเพลี้ยไฟเป็นศัตรูพืชตัวสำคัญที่ผมพบเจอในสวนเลยครับ ผมปลูกต้นขจร/ดอกสลิดซึ่งเป็นไม้เถายืนต้น มีอายุได้4-5เดือนก็ต้องยอมใช้เคมีมาฉีดให้ตาย แรกๆก็ฉีดนิดเดียวก็ตายหมด จนผ่านไปอีก3-4เดือนเริ่มดื้อยาฉีดแล้วไม่ตายจนตอนนี้ต้องสลับกับยาอื่น เพื่อมากำจัด ถือเป็นปัญหาใหญ่มากเลยทีเดียวครับ
2.เพลี้ยแป้ง (Mealy bug)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pseudococcus sp.
รูปร่างลักษณะและชีวประวัติ
เพลี้ยแป้งตัวเต็มวัยตัวเมียมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 3 มม. สีเหลืองอ่อน ลักษณะอ้วนสั้นมีผงสีขาวปกคลุมลำตัว วางไข่เป็นกลุ่ม ๆ ละ 100-200 ฟองบนผล กิ่ง และใบ ตัวเมียหนึ่งตัวสามารถวางไข่ได้ 600-800 ฟอง ในเวลา 14 วัน ไข่จะฟักอยู่ในถุงใต้ท้องตัวเมียประมาณ 6 - 10 วัน จึงจะออกเป็นตัวอ่อน ตัวอ่อนที่ฟักออกจากไข่ใหม่ ๆ มีสีเหลืองและไม่มีผงสีขาว จะคลานออกจากกลุ่มไข่หาที่เหมาะสมที่จะกินอยู่ ตัวเมียจะมีการลอกคราบจำนวน 3 ครั้ง ด้วยกันและไม่มีปีก ส่วนตัวผู้จะลอกคราบ 4 ครั้ง มีปีกและมีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย ตัวเมียจะวางไข่ภายหลังจากการลอกคราบครั้งที่ 3 ภายในเวลา 1 ปี เพลี้ยแป้งสามารถขยายพันธุ์ได้ 2 - 3 รุ่น ในระยะที่ไม่มีพืชอาหารหลัก เพลี้ยแป้งจะอาศัยอยู่ใต้ดินตามรากพืช เช่น รากหญ้าแห้วหมู โดยมีมดซึ่งอาศัยกินสิ่งขับถ่ายของเพลี้ยแป้งเป็นพาหะนำไป
ลักษณะการทำลาย
เพลี้ยแป้งดูดกินน้ำเลี้ยงจากบริเวณกิ่ง ใบ ช่อดอก ผลอ่อน ผลแก่ มีมดเป็นพาหะ ช่วยพาไปตามส่วนต่าง ๆ ของพืช ส่วนของพืชที่ถูกทำลายจะแคระแกรนและเกิดราสีดำ โดยเฉพาะผลที่มีเพลี้ยแป้งทำลายอยู่มักจะเป็นที่รังเกียจของผู้บริโภค แม้ว่าจะไม่ทำให้เนื้อทุเรียนเสียหายก็ตาม
อย่างที่ได้กล่าวไปครับมดเป็นพาหะ ดังนั้นต้องกำจัดมดออกไปดีกว่าครับ จากประสบการณ์ของผม มดทุกชนิดเลี้ยงเพลี้ยแป้งหมดครับ ถ้าไม่มีมดพาไปเพลี้ยแป้งก็ขึ้นมาเองได้ยากครับ
3.เพลี้ยอ่อน (Aphids)
ลักษณะการทำลาย
เพลี้ยอ่อน ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบ ยอดอ่อนและดอกทำให้หงิกงอเป็นคลื่น หากมีการระบาดมาก ๆ จะทำให้ไม้ดอกเหี่ยวและอ่อนแอ ไม่ออกดอก บริเวณที่มีเพลี้ยอ่อนระบาดมักจะพบเห็นมดอาศัยกินน้ำหวานที่เพลี้ยอ่อนถ่ายออกมาก จะทำให้เกิดราดำ
รูปร่างลักษณะ
เพลี้ยอ่อน เป็นแมลงปากดูดที่มีขนาดเล็ก ผนังลำตัวอ่อนนุ่ม ขยายพันธุ์ได้โดยไม่ต้องมีการผสมพันธุ์และออกลูกเป็นตัว มีทั้งชนิดมีปีก และไม่มีปีก ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก ต่างกันที่ขนาดและสี เจริญเติบโตลอกคราบ 4-5 ครั้ง ตัวเต็มวัยขนาด โตเต็มที่ประมาณ 1 มิลลิเมตร สีลำตัวมีตั้งแต่สีเขียวอ่อนไปจนถึงสีดำเข้ม ที่ปลายส่วนท้องจะมีท่อเล็ก ๆ ยื่นยาวออกมา 2 ท่อ เพลี้ยอ่อนตัวหนึ่ง ๆ จะให้ลูกได้ประมาณ 27 ตัว ระยะตัวอ่อนประมาณ 5-6 วัน ระยะตัวเต็มวัยประมาณ 3-14 วัน อายุเฉลี่ย 11 วัน
ผมเคยปลูกถั่วฝักยาวอยู่ช่วงนึงครับ เพลี้ยอ่อนจะชอบมากเลยครับถั่วฝักยาว จะเกาะอยู่ตามต้นพาหะก็คือมดอีกนั่นแหละครับ มันจะเลี้ยงไว้เอาน้ำหวานที่เพลี้ยอ่อนถ่ายออกมา ฉีดชีวภาพก็ไม่ค่อยตายครับ บิวเวอเรีย น้ำส้มควันไม้ แต่เคมียังไม่เคยลองฉีดครับ กำจัดมดดีกว่าครับจะไม่มีเพลี้ยหลายๆชนิดเลย
ขอจบศัตรูพืชตอนแรกไว้เพียงเท่านี้ครับ ถ้าสนใจ ตอน2 คลิก ศัตรูพืชตอน2
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น