ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ไส้เดือนดินฟื้นฟูดินในสวน

 ว่าด้วยเรื่องการเลี้ยงไส้เดือนกันครับ หากใครยังไม่ทราบว่าไส้เดือนดินที่เลี้ยงนี้คือไส้เดือนดินตามบ้านต้องขุดกันมาเลี้ยงคิดผิดแล้วครับ ไส้เดือนที่จะพูดถึงนี้คือไส้เดือนที่ต้องเป็นสายพันธ์ุที่กินเก่งครับ เช่นแอฟริกันไนท์คลอเลอร์(African night crawler)หรือAf สายพันธุ์นี้กินเก่งตัวใหญ่ให้มูลไส้เดือนได้มากเหมาะกับอากาศบ้านเราร้อนแต่ต้องชื้นๆหน่อย,ไทเกอร์ไส้เดือนเมืองหนาวตัวเล็กกว่าaf,บลูลักษณะคล้ายไทเกอร์ กินขยะได้เก่งและพันธุ์ ขี้ตาแร่ เป็นไส้เดือนบ้านเรา สามารถนำมาทำปุ๋ยหมักได้ แต่ถ้าเกิดควบคุมสภาวะไม่ดี จะทำให้หนีได้ 
  ต่อไปถ้าเลือกสายพันธ์ุที่จะเลี้ยงได้แล้วจะมาว่าด้วย เบดดิ้ง(Bedding)กันครับ 
การทำ เบดดิ้งให้ไส้เดือนได้อยู่อาศัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าทำเบดดิ้งไม่ดี ไส้เดือนก็จะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ดังนั้นต้องให้ความสำคัญในการทำเบดดิ้งมากหน่อย
วัสดุที่สามารถมาทำเบดดิ้งได้  คือ ของ อินทรีย์วัตถุทุกอย่างที่อยู่รอบๆๆตัวเรา ไส้เดือนสามารถย่อยได้หมด ส่วนตัวผมเลือกที่จะใช้มูลวัวครับ ถ้าเป็นมูลวัวนมจะดีมากครับเพราะอาหารที่เค้าให้วัวนมกินนั้นจะไม่ทำให้มูลร้อนและมีกลิ่นไม่มาก แต่ก็ยังต้องแช่น้ำไว้นะครับ แช่แล้วปล่อยทิ้งซัก2-3รอบ น้ำที่แช่มูลวัวก็อย่าทิ้งเสียเปล่านะครับ นำมารดต้นไม้ได้เหมือนให้ปุ๋ยขี้วัวทางน้ำครับ ผมก็ใช้วิธีนี้แช่ในถัง100ลิตร1คืนแล้วปล่อยไปกับน้ำหยด

เมื่อได้เบดดิ้งมาแล้วขนาดปริมาณไส้เดือนต่อเบดดิ้งที่ใช้กัน คือ  ไส้เดือน 1 กิโลกรัม ต่อ เบดดิ้ง 10กิโลกรัม

1.นำ เบดดิ้งที่เตรียมไว้ทำให้เป็นกองมีขนาดความสูงไม่เกิน 2 นิ้ว เหตุผลที่ทำให้ต้องทำกองเตี้ยๆ เพราะถ้ากองสูงเกินไป อากาศจะไม่สามารถเข้าไปในกองได้ ซึ่งจะทำให้เป็น มูลไส้เดือนช้า กองยิ่งสูงไส้เดือนก็จะกินแค่ผิวไม่เกิน 2 - 3 นิ้ว ส่วนข้างล่างไส้เดือนไม่ได้ลงไปกินเพราะ ไม่มีอากาศและแน่นมาก ดังนั้นต้องจัดการกองเบดดิ้งให้ดีด้วย

2.การปล่อยไส้เดือนลงเบดดิ้งใหม่  การนำไส้เดือนลงไปปล่อย ต้องตรวจสอบเบดดิ้งก่อนว่าใช้ได้มั้ยโดยการหยิบเบดดิ้งขึ้นมาลองบีบดู ถ้าไม่มีน้ำหยดลงมาถือว่าใช้ไม่ได้ต้องเติมน้ำลงไปให้ชุ่มกว่านี้ แต่ถ้าบีบแล้วน้ำไหลโชคแสดงว่าน้ำเยอะไปต้องปล่อยให้แห้งลงอีก ให้บีบแล้วน้ำหยดเป็นหยดๆพอถึงใช้ได้ จากนั้นสามารถปล่อยได้เลย โดยวิธีการปล่อยไส้เดือนก็มีเทคนิคนิดหน่อยโดย ไส้เดือน 1 กิโล ให้มีเบดดิ้งเก่าสัก 500 กรัม ทำไมต้องมีเบดดิ้งเก่าด้วย เพราะป้องกันเผื่อไส้เดือนไม่ชอบเบดดิ้งใหม่อย่างน้อยมันก็จะอาศัยในเบดดิ้ง เก่าไปก่อน พอมันปรับสภาพได้ ก็จะลงไปเบดดิ้งใหม่เองครับ

3.ถ้า ไส้เดือนลงไปเบดดิ้งใหม่แล้วก็เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ปล่อยให้ไส้เดือนมันทำงานของมันไป เราก็แค่ดูรดน้ำให้ความชื้นเท่านั้น โดยผมเองใช้วิธีพ่นหมอกเอา จะทำให้ประหยัดแรง เวลา ทำให้ไส้เดือนได้รับความชุ่มชื้นพอดีอีกด้วย และยังทำให้ไส้เดือนคิดว่าฝนกำลังตกอยู่จะทำให้ไส้เดือนขยายพันธุ์เร็วมากครับ



 


         รูประบบพ่นหมอก(เป็นโรงเพาะเห็ดเก่า)

4.ใน ช่วงแรก ปริมาณไส้เดือนที่เราเลี้ยงจะมีน้อย เราก็จะมาเร่งปริมาณตัวไส้เดือนกัน  โดย มี วิธี  ในการเลี้ยงไส้เดือน 1 รอบการเก็บผลผลิตจะใช้เวลา 3 เดือน แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ  2 เดือนแรกจะให้ไส้เดือนกินเบดดิ้งหมด อีก 1 เดือน คือรอให้ไข่ไส้เดือนฟัก  เราถึงจะได้ผลผลิตจากมูลไส้เดือน จะเห็นว่าใช้เวลานาน  ผมก็เลยจะลดเวลาการทำงานของไส้เดือนเพื่อจำนวนไส้เดือนอย่างเร็ว  โดย ผมจะแนะนำให้เลี้ยงไส้เดือนแค่ 1 เดือนต่อ 1 รอบ เพื่อเพิ่มจำนวนตัวไส้เดือน อย่างรวดเร็ว


                                      ภาพ ไส้เดือนพันธ์ุแอฟริกันไนท์คลอเลอร์ ที่สวน



วิธีการให้อาหารไส้เดือน
 การให้อาหารไส้เดือน ต้องให้กว้างๆบางๆแต่บ่อยครั้ง  ไส้เดือนไม่มีปากไม่สามารถเคี้ยวได้ ไส้เดือนจะใช้การดูดกินอาหาร ดังนั้น ไส้เดือนต้องรอจนกว่า อาหารที่ให้จะเน่า เละ ไส้เดือนจึงจะสามารถย่อยอาหารได้  เมื่อเข้าใจในหลักการนี้แล้ว เราก็เตรียมอาหารให้ โดยยิ่งเล็กเท่าไร ไส้เดือนก็จะสามารถย่อยได้เร็วเท่านั้น
-ไส้เดือนย่อยอินทรีย์ได้ทุกประเภท
    เศษผัก
    เศษผลไม้
    กระดาษกล่อง
    เศษอาหาร (ต้องระวังเรื่อง ความเค็ม ความเปรี้ยว ความเผ็ด เราต้องกรองเอาแต่ กากน่ะครับ อย่าให้มีน้ำจากการปรุงนะครับ)
 วิธีให้ คือเราจะนำอาหารมาให้ไส้เดือนมาวางบนเบดดิ้งโดยเราจะให้ครึ่งของพื้นที่ทั้งหมดเราจะไม่ให้เต็มหน้าบริเวณเลี้ยงเพราะถ้าเราให้เต็มพื้นที่จะเกิดความร้อนขึ้นซึ่งไส้เดือนจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ดังนั้นเราควรจะให้ครึ่งเดียวของพื้นที่เลี้ยง จะได้มีพื้นที่ให้ไส้เดือนได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยครับ

การดูแลไส้เดือน
     วิธีดูแลไส้เดือนก็ไม่ยากครับ หมั่นตรวจเช็คความชื้นตลอดเวลา ถ้าเริ่มแห้งแล้วเราก็ควรรดน้ำให้เค้าให้ชื้นๆอยู่เสมอไส้เดือนจะชอบความชื้นที่70-80%ความร้อนไม่เกิน 28องศา เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็หาแสลนหรือฝาอะไรก็ได้มาปิดไว้เพื่อป้องกันหนู นก สัตว์ต่างๆที่จะมากินไส้เดือนของเราได้ เพียงเท่านี้
ไส้เดือนของเราก็มีความสุขผลิตปุ๋ยให้เราตลอก24ชม.เลยครับ

                                 เปิดแล้วปิดด้วย
    การเก็บมูลไส้เดือนมาทำปุ๋ย
  การเก็บมูลไส้เดือนก็แล้วแต่ปริมาณของแต่ละคนครับ มีหลากหลายวิธี ถ้าไม่มากก็ ใช้วิธีเอามือปาดหน้าบ่อไปเรื่อยๆเจอตัวก็คัดออก เมื่อถึงก้นบ่อก็พลิกกองกลับไปมาดูเรื่อยๆ ตามขอบๆจะเยอะครับ เช็คให้ดี หรือจะเอามาล่อนด้วยตะแกงตาถี่ก็ได้ครับ แต่ผมลองแล้วสงสารไส้เดือนครับ คงจะบอบช้ำแล้วก็เวียนหัวน่าดู เลยหยิบออกเองดีกว่า ถ้าทำเยอะขึ้นมาอีก ก็ต้องสั่งเครื่องล่อนไส้เดือนแล้วครับ อันนี้แล้วแต่คุณจะหามาได้ครับ เจอถูกๆแนะนำผมด้วยครับ เอาแบบมีเครื่องยนต์ก็ยิ่งดี เครื่องนี้จะแยกไข่ ไส้เดือนตัวเล็ก แล้วก็ปุ๋ยแบบละเอียดเลยครับ สามารถกรอกลงถุงจำหน่ายได้เลย แต่ผมทำเพื่อใช้ในสวนผมเองครับ เลยยังไม่มีเครื่องนี้ เรื่องทางการค้าจะไม่พูดถึงนะครับเพราะผมไม่ได้ทำ 
  ต่อไปมาพูดถึงน้ำหมักมูลไส้เดือนที่เค้าล่ำลือกันบ้างดีกว่า วิธีทำก็ไม่ยากครับถ้ามีมูลที่พร้อมแล้ว อย่าลืมคัดออกให้หมดนะครับ ไม่งั้นไส้เดือนจมน้ำตายสงสารเค้าแย่เลย
  วิธีทำน้ำหมักครับ
  - ปุ๋ยไส้เดือน 1 ส่วน : น้ำ 10 ส่วน 
  -  ที่ให้ O2 ปลา (ถ้ามี) เพื่อนำจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มาใช้
  - ระวังเรื่องน้ำที่แช่นะครับ ถ้าเป็นน้ำประปาจะมีคลอลีนนะครับ ต้องพักน้ำไว้ซัก3-4วันก่อนถึงจะใช้ได้
 ใส่ปุ๋ยในกระสอบหรืออะไรก็ได้ครับที่น้ำเข้าได้ แต่ปุ๋ยไม่ออกมา เติมน้ำลงไป เติม O2 ลงไปในถัง 3วัน ถึงจะเอาO2 ออก ปล่อยให้ตกตะกอนแล้วเอาน้ำเก็บใส่ขวดไว้ เท่านี้เองครับ
  (เวลาใช้ควรเจือจางกับน้ำอัตรา 1:20 ส่วน)
  ประโยชน์ของน้ำหมักมูลไส้เดือน
1. น้ำหมักมูลไส้เดือนไม่ใช่ปุ๋ยเคมี ช่วยทำให้รากแข็งแรง จึงช่วยเพิ่มขนาดของต้นไม้ จึงทำให้ผลผลิตมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
2. ใช้เป็นยาขับไล่แมลงศัตรูของพืชได้
3. มีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ จะกินเชื้อราต่างๆ ช่วยรักษาราดำบนผลไม้ ใบไม้ และจุดสีดำบนดอกกุหลาบ รวมทั้งการฆ่าตัวอ่อนของเพลี้ย
4. มีคุณสมบัติเป็นฮอร์โมนพืช ช่วยให้พืชติดดอกได้ดีและแข็งแรง

  จบแค่นี้ครับ สำหรับเรื่องของมูลไส้เดือน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณที่อ่านครับ




ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น