ต่อไปถ้าเลือกสายพันธ์ุที่จะเลี้ยงได้แล้วจะมาว่าด้วย เบดดิ้ง(Bedding)กันครับ
การทำ เบดดิ้งให้ไส้เดือนได้อยู่อาศัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าทำเบดดิ้งไม่ดี ไส้เดือนก็จะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ดังนั้นต้องให้ความสำคัญในการทำเบดดิ้งมากหน่อย
วัสดุที่สามารถมาทำเบดดิ้งได้ คือ ของ อินทรีย์วัตถุทุกอย่างที่อยู่รอบๆๆตัวเรา ไส้เดือนสามารถย่อยได้หมด ส่วนตัวผมเลือกที่จะใช้มูลวัวครับ ถ้าเป็นมูลวัวนมจะดีมากครับเพราะอาหารที่เค้าให้วัวนมกินนั้นจะไม่ทำให้มูลร้อนและมีกลิ่นไม่มาก แต่ก็ยังต้องแช่น้ำไว้นะครับ แช่แล้วปล่อยทิ้งซัก2-3รอบ น้ำที่แช่มูลวัวก็อย่าทิ้งเสียเปล่านะครับ นำมารดต้นไม้ได้เหมือนให้ปุ๋ยขี้วัวทางน้ำครับ ผมก็ใช้วิธีนี้แช่ในถัง100ลิตร1คืนแล้วปล่อยไปกับน้ำหยด
วัสดุที่สามารถมาทำเบดดิ้งได้ คือ ของ อินทรีย์วัตถุทุกอย่างที่อยู่รอบๆๆตัวเรา ไส้เดือนสามารถย่อยได้หมด ส่วนตัวผมเลือกที่จะใช้มูลวัวครับ ถ้าเป็นมูลวัวนมจะดีมากครับเพราะอาหารที่เค้าให้วัวนมกินนั้นจะไม่ทำให้มูลร้อนและมีกลิ่นไม่มาก แต่ก็ยังต้องแช่น้ำไว้นะครับ แช่แล้วปล่อยทิ้งซัก2-3รอบ น้ำที่แช่มูลวัวก็อย่าทิ้งเสียเปล่านะครับ นำมารดต้นไม้ได้เหมือนให้ปุ๋ยขี้วัวทางน้ำครับ ผมก็ใช้วิธีนี้แช่ในถัง100ลิตร1คืนแล้วปล่อยไปกับน้ำหยด
เมื่อได้เบดดิ้งมาแล้วขนาดปริมาณไส้เดือนต่อเบดดิ้งที่ใช้กัน คือ ไส้เดือน 1 กิโลกรัม ต่อ เบดดิ้ง 10กิโลกรัม
1.นำ เบดดิ้งที่เตรียมไว้ทำให้เป็นกองมีขนาดความสูงไม่เกิน 2 นิ้ว เหตุผลที่ทำให้ต้องทำกองเตี้ยๆ เพราะถ้ากองสูงเกินไป อากาศจะไม่สามารถเข้าไปในกองได้ ซึ่งจะทำให้เป็น มูลไส้เดือนช้า กองยิ่งสูงไส้เดือนก็จะกินแค่ผิวไม่เกิน 2 - 3 นิ้ว ส่วนข้างล่างไส้เดือนไม่ได้ลงไปกินเพราะ ไม่มีอากาศและแน่นมาก ดังนั้นต้องจัดการกองเบดดิ้งให้ดีด้วย
2.การปล่อยไส้เดือนลงเบดดิ้งใหม่ การนำไส้เดือนลงไปปล่อย ต้องตรวจสอบเบดดิ้งก่อนว่าใช้ได้มั้ยโดยการหยิบเบดดิ้งขึ้นมาลองบีบดู ถ้าไม่มีน้ำหยดลงมาถือว่าใช้ไม่ได้ต้องเติมน้ำลงไปให้ชุ่มกว่านี้ แต่ถ้าบีบแล้วน้ำไหลโชคแสดงว่าน้ำเยอะไปต้องปล่อยให้แห้งลงอีก ให้บีบแล้วน้ำหยดเป็นหยดๆพอถึงใช้ได้ จากนั้นสามารถปล่อยได้เลย โดยวิธีการปล่อยไส้เดือนก็มีเทคนิคนิดหน่อยโดย ไส้เดือน 1 กิโล ให้มีเบดดิ้งเก่าสัก 500 กรัม ทำไมต้องมีเบดดิ้งเก่าด้วย เพราะป้องกันเผื่อไส้เดือนไม่ชอบเบดดิ้งใหม่อย่างน้อยมันก็จะอาศัยในเบดดิ้ง เก่าไปก่อน พอมันปรับสภาพได้ ก็จะลงไปเบดดิ้งใหม่เองครับ
3.ถ้า ไส้เดือนลงไปเบดดิ้งใหม่แล้วก็เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ปล่อยให้ไส้เดือนมันทำงานของมันไป เราก็แค่ดูรดน้ำให้ความชื้นเท่านั้น โดยผมเองใช้วิธีพ่นหมอกเอา จะทำให้ประหยัดแรง เวลา ทำให้ไส้เดือนได้รับความชุ่มชื้นพอดีอีกด้วย และยังทำให้ไส้เดือนคิดว่าฝนกำลังตกอยู่จะทำให้ไส้เดือนขยายพันธุ์เร็วมากครับ
รูประบบพ่นหมอก(เป็นโรงเพาะเห็ดเก่า)
4.ใน ช่วงแรก ปริมาณไส้เดือนที่เราเลี้ยงจะมีน้อย เราก็จะมาเร่งปริมาณตัวไส้เดือนกัน โดย มี วิธี ในการเลี้ยงไส้เดือน 1 รอบการเก็บผลผลิตจะใช้เวลา 3 เดือน แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ 2 เดือนแรกจะให้ไส้เดือนกินเบดดิ้งหมด อีก 1 เดือน คือรอให้ไข่ไส้เดือนฟัก เราถึงจะได้ผลผลิตจากมูลไส้เดือน จะเห็นว่าใช้เวลานาน ผมก็เลยจะลดเวลาการทำงานของไส้เดือนเพื่อจำนวนไส้เดือนอย่างเร็ว โดย ผมจะแนะนำให้เลี้ยงไส้เดือนแค่ 1 เดือนต่อ 1 รอบ เพื่อเพิ่มจำนวนตัวไส้เดือน อย่างรวดเร็ว
ภาพ ไส้เดือนพันธ์ุแอฟริกันไนท์คลอเลอร์ ที่สวน
วิธีการให้อาหารไส้เดือน
การให้อาหารไส้เดือน ต้องให้กว้างๆบางๆแต่บ่อยครั้ง ไส้เดือนไม่มีปากไม่สามารถเคี้ยวได้ ไส้เดือนจะใช้การดูดกินอาหาร ดังนั้น ไส้เดือนต้องรอจนกว่า อาหารที่ให้จะเน่า เละ ไส้เดือนจึงจะสามารถย่อยอาหารได้ เมื่อเข้าใจในหลักการนี้แล้ว เราก็เตรียมอาหารให้ โดยยิ่งเล็กเท่าไร ไส้เดือนก็จะสามารถย่อยได้เร็วเท่านั้น
-ไส้เดือนย่อยอินทรีย์ได้ทุกประเภท
เศษผัก
เศษผลไม้
กระดาษกล่อง
เศษอาหาร (ต้องระวังเรื่อง ความเค็ม ความเปรี้ยว ความเผ็ด เราต้องกรองเอาแต่ กากน่ะครับ อย่าให้มีน้ำจากการปรุงนะครับ)
วิธีให้ คือเราจะนำอาหารมาให้ไส้เดือนมาวางบนเบดดิ้งโดยเราจะให้ครึ่งของพื้นที่ทั้งหมดเราจะไม่ให้เต็มหน้าบริเวณเลี้ยงเพราะถ้าเราให้เต็มพื้นที่จะเกิดความร้อนขึ้นซึ่งไส้เดือนจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ดังนั้นเราควรจะให้ครึ่งเดียวของพื้นที่เลี้ยง จะได้มีพื้นที่ให้ไส้เดือนได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยครับ
การให้อาหารไส้เดือน ต้องให้กว้างๆบางๆแต่บ่อยครั้ง ไส้เดือนไม่มีปากไม่สามารถเคี้ยวได้ ไส้เดือนจะใช้การดูดกินอาหาร ดังนั้น ไส้เดือนต้องรอจนกว่า อาหารที่ให้จะเน่า เละ ไส้เดือนจึงจะสามารถย่อยอาหารได้ เมื่อเข้าใจในหลักการนี้แล้ว เราก็เตรียมอาหารให้ โดยยิ่งเล็กเท่าไร ไส้เดือนก็จะสามารถย่อยได้เร็วเท่านั้น
-ไส้เดือนย่อยอินทรีย์ได้ทุกประเภท
เศษผัก
เศษผลไม้
กระดาษกล่อง
เศษอาหาร (ต้องระวังเรื่อง ความเค็ม ความเปรี้ยว ความเผ็ด เราต้องกรองเอาแต่ กากน่ะครับ อย่าให้มีน้ำจากการปรุงนะครับ)
วิธีให้ คือเราจะนำอาหารมาให้ไส้เดือนมาวางบนเบดดิ้งโดยเราจะให้ครึ่งของพื้นที่ทั้งหมดเราจะไม่ให้เต็มหน้าบริเวณเลี้ยงเพราะถ้าเราให้เต็มพื้นที่จะเกิดความร้อนขึ้นซึ่งไส้เดือนจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ดังนั้นเราควรจะให้ครึ่งเดียวของพื้นที่เลี้ยง จะได้มีพื้นที่ให้ไส้เดือนได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยครับ
การดูแลไส้เดือน
วิธีดูแลไส้เดือนก็ไม่ยากครับ หมั่นตรวจเช็คความชื้นตลอดเวลา ถ้าเริ่มแห้งแล้วเราก็ควรรดน้ำให้เค้าให้ชื้นๆอยู่เสมอไส้เดือนจะชอบความชื้นที่70-80%ความร้อนไม่เกิน 28องศา เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็หาแสลนหรือฝาอะไรก็ได้มาปิดไว้เพื่อป้องกันหนู นก สัตว์ต่างๆที่จะมากินไส้เดือนของเราได้ เพียงเท่านี้
ไส้เดือนของเราก็มีความสุขผลิตปุ๋ยให้เราตลอก24ชม.เลยครับ
ไส้เดือนของเราก็มีความสุขผลิตปุ๋ยให้เราตลอก24ชม.เลยครับ
การเก็บมูลไส้เดือนมาทำปุ๋ย
การเก็บมูลไส้เดือนก็แล้วแต่ปริมาณของแต่ละคนครับ มีหลากหลายวิธี ถ้าไม่มากก็ ใช้วิธีเอามือปาดหน้าบ่อไปเรื่อยๆเจอตัวก็คัดออก เมื่อถึงก้นบ่อก็พลิกกองกลับไปมาดูเรื่อยๆ ตามขอบๆจะเยอะครับ เช็คให้ดี หรือจะเอามาล่อนด้วยตะแกงตาถี่ก็ได้ครับ แต่ผมลองแล้วสงสารไส้เดือนครับ คงจะบอบช้ำแล้วก็เวียนหัวน่าดู เลยหยิบออกเองดีกว่า ถ้าทำเยอะขึ้นมาอีก ก็ต้องสั่งเครื่องล่อนไส้เดือนแล้วครับ อันนี้แล้วแต่คุณจะหามาได้ครับ เจอถูกๆแนะนำผมด้วยครับ เอาแบบมีเครื่องยนต์ก็ยิ่งดี เครื่องนี้จะแยกไข่ ไส้เดือนตัวเล็ก แล้วก็ปุ๋ยแบบละเอียดเลยครับ สามารถกรอกลงถุงจำหน่ายได้เลย แต่ผมทำเพื่อใช้ในสวนผมเองครับ เลยยังไม่มีเครื่องนี้ เรื่องทางการค้าจะไม่พูดถึงนะครับเพราะผมไม่ได้ทำ
ต่อไปมาพูดถึงน้ำหมักมูลไส้เดือนที่เค้าล่ำลือกันบ้างดีกว่า วิธีทำก็ไม่ยากครับถ้ามีมูลที่พร้อมแล้ว อย่าลืมคัดออกให้หมดนะครับ ไม่งั้นไส้เดือนจมน้ำตายสงสารเค้าแย่เลย
วิธีทำน้ำหมักครับ
- ปุ๋ยไส้เดือน 1 ส่วน : น้ำ 10 ส่วน
- ที่ให้ O2 ปลา (ถ้ามี) เพื่อนำจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มาใช้
- ระวังเรื่องน้ำที่แช่นะครับ ถ้าเป็นน้ำประปาจะมีคลอลีนนะครับ ต้องพักน้ำไว้ซัก3-4วันก่อนถึงจะใช้ได้
ใส่ปุ๋ยในกระสอบหรืออะไรก็ได้ครับที่น้ำเข้าได้ แต่ปุ๋ยไม่ออกมา เติมน้ำลงไป เติม O2 ลงไปในถัง 3วัน ถึงจะเอาO2 ออก ปล่อยให้ตกตะกอนแล้วเอาน้ำเก็บใส่ขวดไว้ เท่านี้เองครับ
(เวลาใช้ควรเจือจางกับน้ำอัตรา 1:20 ส่วน)
ประโยชน์ของน้ำหมักมูลไส้เดือน
1. น้ำหมักมูลไส้เดือนไม่ใช่ปุ๋ยเคมี ช่วยทำให้รากแข็งแรง จึงช่วยเพิ่มขนาดของต้นไม้ จึงทำให้ผลผลิตมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
2. ใช้เป็นยาขับไล่แมลงศัตรูของพืชได้
3. มีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ จะกินเชื้อราต่างๆ ช่วยรักษาราดำบนผลไม้ ใบไม้ และจุดสีดำบนดอกกุหลาบ รวมทั้งการฆ่าตัวอ่อนของเพลี้ย
4. มีคุณสมบัติเป็นฮอร์โมนพืช ช่วยให้พืชติดดอกได้ดีและแข็งแรง
2. ใช้เป็นยาขับไล่แมลงศัตรูของพืชได้
3. มีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ จะกินเชื้อราต่างๆ ช่วยรักษาราดำบนผลไม้ ใบไม้ และจุดสีดำบนดอกกุหลาบ รวมทั้งการฆ่าตัวอ่อนของเพลี้ย
4. มีคุณสมบัติเป็นฮอร์โมนพืช ช่วยให้พืชติดดอกได้ดีและแข็งแรง
จบแค่นี้ครับ สำหรับเรื่องของมูลไส้เดือน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณที่อ่านครับ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น